นาทีนี้ควายทั้งแผ่นดินคงอยากจะชูตีนตบแสดงความยินดีกับ “เจ๊โบท็อกซ์” ที่ได้เป็นหัวหน้าควายสมใจ แต่สำหรับซ้อแล้ว อยากให้พวงหรีดไว้อาลัยบ้านเมืองล่วงหน้าว่ะ ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าแช่งอยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะยังไงมันก็บ้านเกิดเมืองนอนของซ้อเหมือนกัน แต่ที่พูดแบบนั้นก็เพราะสงสารประเทศไทยจับใจ ที่เห็นพวกโจรมันยึดประเทศไปหน้าด้านๆ
พวกหน้าด้านมาเจอพวกเห็นแก่เงิน จุดจบคงหนีไม่พ้นบรรลัยทั้งแผ่นดิน
ยังไม่ทันไรลายชั่วก็ออกซะแล้ว แต่ขอเตือนนะว่า ต่อให้พวกเมิงแก้ผิดให้เป็นถูกได้ แต่ไม่มีใครแก้กฎแห่งกรรมได้หรอกนะโว้ย!! ถึงวันที่ความจริงปรากฏ บาปกรรมคงตามเช็กบิลไม่ต้องรอยมบาลเจ้าขาให้เสียเวลา
จะว่าไปแล้ว ช่างสมเพชตะกวดพวกนี้ซะจริงๆ จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นมีหมาตัวไหนจะทำอย่างที่รับปากไว้จริงๆ สักคน วันๆ เอาแต่ชิงดีชิงเด่นกันเหมือนหมาแย่งกระดูก พอถีบหัวคนอื่นสำเร็จไม่เห็นจะสนใจทำเพื่อใคร แม่มก็เอาแต่ปากท้องพวกมันก่อนเหมือนเดิม
แต่ยังไงซะ ซ้อก็ยังเชื่อว่า คนดีผีคุ้ม ไม่เหมือนกับคนชั่วที่ไม่มีวันตายดี ยังไงซะก็ขอให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองคนดี ส่วนพวกอัปรีย์ก็ขอให้แพ้ภัยตัวเอง ถ้าวันข้างหน้าพลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่ใช่แค่พ่อเมิงเท่านั้นที่อยู่แผ่นดินนี้ไม่ได้ แม้กระทั่งเชื้อชั่วที่เหลืออยู่ก็คงต้องเนรเทศตัวเองไปสร้างรัฐใหม่ในนรกสถานเดียว
….ถึงวันนั้น ตูนี่แหละจะควักตีนตบออกมาชูเป็นคนแรก 5555555
โม้เรื่องนักการเมืองก็มีแต่เรื่องชั่วๆ ส่วนพ่อเทวดานางฟ้าทั้งหลายก็หนีไม่พ้นเรื่องความ “มั่ว” สลับรูท้างปี จะว่าไปแล้วทั้งสองวงการนี้เป็นอาชีพที่มีต้นทุนทางสังคมสูงกว่าคนอื่นเป็นไหนๆ หากนำโอกาสที่มีเอาไปใช้ในทางที่ถูกที่ควร ป่านนี้ประเทศชาติคงรุดหน้าไปถึงไหนต่อไป ไม่ใช่ฟอนเฟะเหมือนที่เป็นอยู่ แต่เสียดายที่ความจริงมันตรงกันข้ามสิ้นดี ไอ้พวกนักกินเมืองทั้งหลายก็เลวจนกระทะทองแดงถามหา ส่วนพวกดาราหน้ามนก็มั่วจนไม่รู้ผัวใครเมียใคร เยอะซะจนต้นงิ้วในนรกโตไม่ทันให้พวกนี้ปีนเลยล่ะ
ขึ้นชื่อว่า เป็นมนุษย์มันก็หนีไม่พ้นเรื่อง กิน ขี้ ปี้ เยี่ยว ต่อให้ในจอเป็นพระเอกแสนดีมาดแมนสุขุม แอ๊บให้ตัวเองขาวสะอาดยังไง เวลาเสี้ยนขึ้นมาก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเหมือนกัน ดูอย่าง เด็กดันของ “คุณหนูเอาแต่ใจ” เจ้าของค่ายยักษ์ใหญ่ อย่าง “พระเอกสาก” ผู้ไต่เต้ามาจากวงการนายแบบ แต่หันมาเอาดีด้านการแสดง ซึ่งใครต่อใครต่างก็ให้ฉายาเค้าว่าสากเดินได้ ไม่ใช่เพราะสูงชะลูดเหมือนสากหรอกนะ แต่เล่นละครกี่เรื่องๆ ก็แข็งเป็นสากตะหาก ก๊ากๆๆๆๆ
เดิมทีตั้งแต่ปีนป่ายเข้าวงการมา พระเอกสากก็ถือว่ายังลูกผีลูกคน ขนาดคุณหนูเอาแต่ใจดันสุดแรงเกิดแค่ไหนก็ยังไม่ถึงสวรรค์ซะที แต่ด้วยความที่รูปลักษณ์ภายนอกที่แสนจะล่อเป้า ทั้งหน้าตาที่หล่อเหลา ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน แถมออปชันกล้ามเป็นมัดๆ ทำให้เก้งกวางบ่างแอนด์ชะนีอยากจะ “ขัดเสา” ให้กันถ้วนหน้า แต่อย่างที่รู้กิตติศัพท์ของคุณหนูอารมณ์ร้ายว่าอี “หวงไข่” ยิ่งกว่าอะไรซะอีก ถ้าไม่อยากชะตาจิ๋มขาดอย่าได้คิดล้วงคอหูเห่า ถ้าไม่เชื่อก็ลองดู ส่วนมากพระเอกในค่ายก็เลยยอมให้ดันแต่โดยดี ที่ผ่านมาก็เลยถึงฝั่งฝันกันหลายคน จะมีก็แต่พระเอกสากรายนี้นี่แหละที่ดันไม่ขึ้นซะที
แต่ขอบอกว่า ถึงพัฒนาการด้านการแสดงจะเชื่องช้าเป็นเต่าคลาน แต่เรื่อง “บั้นเอว” ของพระเอกสากขอบอกว่าไวยิกๆ ชนิดหาตัวจับยากเชียวล่ะ พูดง่ายๆ ว่า ขยันออกอาวุธหัวกราดอไม่เคยแห้งว่างั้นเถอะ
จนมีอยู่วันนึง หลังจากทำงานปิดกองเรียบร้อย พระเอกสากก็บึ่งรถไปที่ผับแห่งหนึ่ง เป้าหมายคือทะลวงปากมดลูกให้หายเครียดจากการทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าอีก็ฉลาดพอที่จะเลือกผับธรรมดาที่มั่นใจว่าห่างไกลปาปารัสซี่ศัตรูคู่แค้นของดารา ว่าแล้วทันทีที่พระเอกสากเดินฉับๆ เข้าไปในผับ เจ้าตัวก็ไม่รอช้าเลือกนั่งมุมเพชฌฆาตทันที แต่อย่างว่า หล่อล่ำซะขนาดนั้น ชะนีที่ไหนเห็นก็อยากจะปีนต้นกล้วยทั้งนั้น หลังจากกวาดสายตาหาเป้าหมาย ไม่นานพระเอกสากก็ไปสะดุดสาวน้อยนางหนึ่ง ทันทีที่ตาประสานตาก็เหมือนจะรู้ว่าสวรรค์รออยู่บนเตียง แต่ด้วยความที่ศักดิ์ศรีพระเอกมันค้ำคอ ไอ้พระเอกสากก็เลยได้แต่นั่งทับไข่ไม่กล้าจู่โจม ได้แต่นั่งส่งสายตาให้กันเป็นระยะ แต่คนนะไม่ใช่ปลากัด ที่แค่มองตาก็ทะลุไปถึงรังไข่ ไม่นานนักพระเอกสากก็ส่งซิกลากสาวน้อยหอยสังข์เดินออกไปจากร้าน แล้วก็ขึ้นรถของพระเอกสากหายไปในกลีบเมฆพร้อมกัน
พอถึงที่หมายพระเอกสากก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง จัดการงัดปลาชะโดออกมาจากเป้า เล่นเอาสาวน้อยถึงกับกรี๊ด เพราะอาวุธคู่กายของพระเอกสากนั้นขาวโอโม่สุดๆ ขนาดปิดไฟตำกันยังเรืองแสงยังกะดาบ 7 สีมณี 7 แสงอะเมซิ่งเป็นที่สุด แถมยังฟิตและอึดยังกะทหารเกณฑ์ จ้ำบึดๆ เป็นชั่วโมงจนจิ๊มิ๊ระบมก็ยังไม่ทะลุจุดแตก อึดยังกะซัดม้ากระทืบโรงมาเป็นลิตรๆ จนอีหนูคู่ขาทนไม่ไหว ยื่นเงื่อนไขอาสาจะ “รูดปรื๊ดๆ” ให้พี่แกก็ไม่ยอม ตะบี้ตะบันตำต่อ กว่าจะถึงฝั่งทำเอาอีหนูหุบขาแทบไม่ลง ต้องเดินขาถ่างเป็นนกเพนกวินไปหลายวัน
งานนี้ถึงไอ้พระเอกสากจะซูเปอร์เซฟด้วยการสั่งปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด เพราะกลัวจะถูกแบล็กเมล์เหมือนที่ดาราหลายคนโดนจนอับอายถึงโคตรเหง้ามาแล้ว แต่ลีลาซอยพิฆาตทำให้สาวน้อยอดไม่ได้ที่จะเอามาเมาท์แตกให้เพื่อนฝูงฟัง เสมือนเป็นเกียรติประวัติของครอบครัวว่าโดนถองจนขาแทบแหก กลายเป็นเรื่องโจษจันในหมู่แก๊งนี้จนถึงทุกวันนี้
ว่าแต่ ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าตัวจะรู้ตัวรึยัง ว่าไม่ใช่เป็นแค่พระเอกในจอซะแล้ว แต่ยังเป็นขวัญใจบนเตียงอีกด้วย หุหุหุ
ยังไงระวังตัวหน่อยก็ดี พลาดมีคลิประเบิดถ้ำขึ้นมา เดี๋ยวจะขายหน้าเหมือน “ม่ายจิ๋มเหล็ก” ไม่รู้ด้วยนะว้อย….
รายแรกว่าเด็ดแล้ว ยังถือว่าเด็กถ้าเทียบกับตัวพ่อด้านการจี่หอยอย่าง “พระเอกผิวเข้ม” วิกหลายสี คนนี้ซ้อเคยโม้ไปหลายรอบจนพรุนพอๆ กับรูที่อีตะลุยมานั่นแหละ แต่ครั้งนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะดันสิ้นคิดหันมากินของเหลืออย่าง “น้องแตงเน่า” จะว่าไปก็สมเพช “อีหนูร้อยหน้า” เจ้าของแชมป์ฉีกขาถ่างแห่งประเทศไทยซะจริงๆ มัวแต่หาเงินฉีดโบท็อกซ์งกๆ จนไม่รู้ว่าผัวตัวดีมันสวมเขาจนได้ตำแหน่งขวัญใจควายไปแล้ว ถ้าไม่ใช่รักมากจนตาบอด ก็คงเป็นผลข้างเคียงของพิษโบท็อกซ์ล่ะว่ะ ถึงยังหลับหูหลับตาเชื่อคนพรรค์นี้อยู่
พระเอกดำก็เหลือเกิน ชีวิตขาดจุ๋มจิ๋มไม่ได้ ฟาดมาหมดตั้งแต่นางเอกยันออหรี่ภูธร ก็ไม่รู้ว่าติดใจพวกซิลิโคนเดินได้รึยังไง ถีบหัวส่งอีหนูร้อยหน้าปุ๊บ ก็หันมาคว้าน้องแตงเน่าปั๊บ เรียกว่าเมียใหม่กับเมียเก่าสูสีกันทั้งความแรงและปริมาณโบท็อกซ์ในผิวหนัง ก็ไม่รู้ว่า เหตุผลที่เลิกกับอีหนูร้อยหน้า เป็นเพราะจำหน้าเมียเก่าไม่ได้รึเปล่า เพราะแม่มเล่นเปลี่ยนตามฤดู อิอิอิ
ว่ากันว่า คู่นี้เค้าไปสปาร์กกันตอนร่วมงานกันครั้งล่าสุด เข้าฉากกันไปเข้าฉากกันมาก็เลยอยากพัฒนามาเข้าปากมดลูกแทน!!
แต่กลับกลายเป็นฝ่ายน้องแตงเน่าที่รุกหนักกว่า ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะช่วงนี้ขาดเสาหลัก เพราะเพิ่งโดนผัวทิ้งมา รึว่าหวังจะ “เต้าไต่” สร้างกระแสให้ตัวเองได้กลับเข้าวงการอ๊ะเปล่า แต่จะด้วยเหตุผลอะไรน้องแตงเน่าก็คงจะสำเหนียกตัวเองได้ว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว แม้กระทั่งการแย่งผัวเพื่อน
ถึงขนาดลงทุนตามไปเฝ้าพระเอกผิวเข้ม ถึงผับที่พระเอกผิวเข้มเป็นหุ้นส่วนอยู่ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เหมือนจะประกาศให้โลกรู้ว่า กรูเป็นชู้กับผัวชาวบ้านอยู่ยังไงยังงั้น คนแถวนั้นเค้ารู้ดี ทุกครั้งที่ไปคนในร้านแทบจะปูเสื่อรอดูหนังสด ทั้งควักทั้งจก ถ้าหงี่กันนักทำไมไม่ลากกันเข้าห้องน้ำให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ถ้าไม่อายคนอื่นก็อายผีสางเทวดาซะมั่ง เสี้ยนกันขนาดนี้ ยุบผับมาเปิดซ่องมันเลยดีกว่าว่ะ
แต่ขอฟันธงเลยว่า ฟาดกันได้ไม่นาน ผู้ชายก็แรงผู้หญิงก็แรดแบบนี้ แค่น้ำแตกก็แยกทางเท่านั้นแหละ
ขอบคุณบทความซ้อ7 จากผู้จัดการออนไลน์
กระปู๋เรืองแสง / ซ้อ7
Written By Unknown on วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 | 21:31
ป้ายกำกับ:
ซ้อ7
แสดงความคิดเห็น